เรื่องราวความสำเร็จ

มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย

Nonprofit Organization
|
Visit website
Recurring payment หรือระบบเรียกเก็บเงินอัตโนมัติมีความสำคัญกับเรามาก เพราะช่วยให้การรับเงินบริจาคมีความต่อเนื่องและช่วยให้เราวางแผนการทำงานได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราต้องมีผู้ให้บริการที่ไว้วางใจได้อย่างเช่น Omise
บุญยวีร์ เย็นวัฒนะกุล
Director of Fundraising
มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย และเส้นทางสู่การให้อย่างยั่งยืนด้วย Subscription API จาก Omise 

ในปี 1996 คู่รักชาวอังกฤษ จอห์น และจิลล์ ดัลลีย์ แต่งงานกันที่ภูเก็ต และตกหลุมรักเกาะแห่งนี้ ท่ามกลางทะเลอันดามันสีฟ้าใส ชายหาดขาว และสถาปัตยกรรมโบราณในตัวเมืองภูเก็ต พวกเขาจึงสัญญาว่าจะกลับมาใช้ชีวิตหลังเกษียณที่นี่สักวันหนึ่ง

จอห์นและจิลล์กลับมาใช้ชีวิตที่ภูเก็ตตามที่สัญญาไว้ในปี 2003 แต่ภูเก็ตก็มีอีกด้านหนึ่งที่ไม่สวยงามนัก เพราะบนเกาะนี้มีสุนัขและแมวจรจัดมากกว่า 70,000 ตัวเร่ร่อนอยู่ตามท้องถนน ทุกข์ทรมานและถูกทอดทิ้ง 

สำหรับคนที่รักสัตว์อย่างแท้จริงแบบพวกเขา เรื่องนี้เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้

ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งคู่ได้พบกับมาร์โก ฮอมเบิร์ก ที่อาศัยอยู่ที่ภูเก็ตและคอยเหลือสัตว์เหล่านี้มาตลอด ผ่านการพาไปทำหมันและดูแลรักษา แรงบันดาลใจจากความเสียสละของมาร์โก ทำให้จอห์นและจิลล์ตัดสินใจร่วมมือกับเธอ

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ “Soi Dog Foundation” หรือ “มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย”

กว่า 20 ปีแห่งภารกิจเพื่อเพื่อนสี่ขา

ภารกิจของมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยคือการยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์และชุมชน โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือสุนัขและแมวไม่ต้องมาเร่ร่อนจรจัดอีกต่อไป พวกเขาดำเนินงานผ่านหลายโปรแกรมหลัก ได้แก่ CNVR (จับ ทำหมัน ฉีดวัคซีน และปล่อยกลับสู่ถิ่นเดิม) เพื่อลดจำนวนสัตว์ที่เกิดมาใช้ชีวิตยากลำบากบนท้องถนน การช่วยเหลือและรักษา การดูแลและบำบัดสัตว์ และการยุติการค้าเนื้อสุนัขและแมวเพื่อการบริโภค

ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิได้ทำหมันและฉีดวัคซีนให้กับแมวและสุนัขไปแล้วมากกว่า 1,400,000 ตัว “ตัวเลขนี้ถือว่าเยอะมาก แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือผลกระทบเชิงบวกที่มีต่อชุมชน หากพิจารณาว่าสุนัขจรเพียงสองตัวสามารถขยายพันธุ์จนมีลูกหลานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นมากกว่า 300 ตัวภายในเวลาเพียง 3 ปี ก็จะเห็นได้ว่าผลกระทบต่อชุมชนนั้นมีมากกว่าตัวเลขที่เห็นอย่างชัดเจน” คุณบุญยวีร์ เย็นวัฒนะกุล ผู้อำนวยการฝ่ายระดมทุนของมูลนิธิกล่าว

นับตั้งแต่ปี 2003 มูลนิธิยังได้ช่วยเหลือสุนัขและแมวกว่า 16,000 ตัวจากการค้าเนื้อสัตว์เพื่อบริโภค ปัจจุบันมูลนิธิดูแลสุนัขและแมวกว่า 1,800 ตัวบนพื้นที่ขนาด 30 ไร่ “เราดูแลให้น้องหมาน้องแมวมีความเป็นอยู่ที่ดี ได้รับอาหารเพียงพอ และมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นอย่างอิสระ นอกจากนี้เรายังมีผู้เชี่ยวชาญคอยจัดกลุ่มสุนัขตามพฤติกรรมและนิสัย เพื่อให้พวกเขาอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

เงินบริจาค แรงขับเคลื่อนขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร

ความสำเร็จที่กล่าวมานั้นเกิดขึ้นได้เพราะเงินบริจาคจากภาคประชาชนและภาคเอกชน สำหรับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรแล้ว การบริจาคนั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการหล่อเลี้ยงให้ภารกิจของมูลนิธิดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง หลายๆ มูลนิธิ เช่น มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยเองจึงพัฒนากระบวนการบริจาคให้เป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้บริจาค เพื่อที่พวกเขาจะได้สนับสนุนมูลนิธิอย่างต่อเนื่อง

“ก่อนที่จะใช้บริการของ Omise เราเคยใช้ผู้ให้บริการรับชำระเงินของต่างประเทศมาก่อน แต่ตอนนั้นเราประสบปัญหาหลายอย่าง ตั้งแต่การชำระเงินล้มเหลว ซึ่งทำให้ผู้บริจาคจำนวนไม่น้อยละทิ้งการบริจาคกลางคันและไม่กลับมาอีกเลย ไปจนถึงทีมซัพพอร์ตที่ติดต่อยาก ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อมูลนิธิ” คุณบุญยวีร์ กล่าว

การให้ที่ต่อเนื่องเริ่มต้นด้วยโซลูชันจาก Omise

หลังจากมองหาผู้ให้บริการรับชำระเงินที่รองรับทั้งการทำธุรกรรมในประเทศและต่างประเทศ มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยก็ได้พบกับ Omise คุณบุญยวีร์ เล่าว่า อัตราการอนุมัติการชำระเงินดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ด้วย Omise มูลนิธิสามารถเปิดรับทั้งการบริจาคแบบครั้งเดียวและแบบรายเดือน “การบริจาครายเดือนมีความสำคัญกับเรามาก เพราะนอกจากจะเป็นแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องแล้ว เรายังคาดการณ์รายรับและวางแผนเป้าหมายในแต่ละเดือนได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องเลือกผู้ให้บริการที่เราเชื่อมั่นได้ 100% อย่าง Omise เพราะในการหักเงินเป็นประจำแต่ละเดือนนั้น ผู้บริจาคต้องมอบข้อมูลบัตรของพวกเขาไว้กับผู้ให้บริการ ความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”

Omise เป็นผู้ให้บริการรายแรกในประเทศไทยที่รองรับเทคโนโลยี Network Tokenization ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่แทนข้อมูลบัตรจริงด้วยโทเคนที่ออกโดยเครือข่ายบัตร เช่น Visa หรือ Mastercard ด้วยระบบนี้ หมายเลขบัตรจริงจะปลอดภัย ไม่ถูกเก็บหรือส่งต่อ อีกทั้งยังสะดวกต่อผู้บริจาค เพราะหากบัตรหาย บัตรหมดอายุ หรือถูกเปลี่ยน ระบบจะอัปเดตโทเคนให้โดยอัตโนมัติ ผู้บริจาคไม่ต้องกรอกข้อมูลใหม่ ทำให้การบริจาคต่อเนื่องราบรื่นและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม

การบริจาครายเดือนยังช่วยให้มูลนิธิวางแผนรายรับได้อย่างแม่นยำ “คนที่มีสัตว์เลี้ยงคงรู้ดีว่าแค่พาสุนัขหรือแมวไปหาหมอครั้งเดียวก็มีค่าใช้จ่ายไม่น้อย ลองจินตนาการดูว่าถ้าต้องดูแลสัตว์นับพันตัวจะเป็นอย่างไร การรู้ว่าเราจะมีรายรับประมาณเท่าไหร่ในแต่ละเดือน ช่วยให้เราวางแผนล่วงหน้าได้ดีขึ้น และเดินหน้าสู่เป้าหมายได้มั่นคงขึ้น” เธอกล่าวเสริม

“ทีมซัพพอร์ตของ Omise เองก็ดีมาก ระบบแดชบอร์ดก็ใช้งานง่าย ช่วยให้การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ใหม่เป็นเรื่องไม่ซับซ้อน”

ในปีนี้ มูลนิธิฯ วางแผนขยายงานไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ ปัจจุบันมี 19 ทีมภาคสนามพร้อมออกปฏิบัติการ และในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้ทำหมันและฉีดวัคซีนให้กับสุนัขและแมวกว่า 200,000 ตัว และรักษาไปแล้วมากกว่า 20,000 ตัว

“ถ้ามีโอกาส อยากเชิญชวนทุกคนมาเยี่ยมชมศูนย์พักพิงของเราที่ภูเก็ตนะคะ ลองมาเป็นอาสาสมัครพาสุนัขไปเดินเล่น คุณไม่มีทางรู้เลยว่าคุณเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาได้แค่ไหน… หรือบางทีอาจเป็นพวกเขาที่เปลี่ยนชีวิตคุณก็ได้”

Interested in Omise Payments solution?