Shopee, Lazada, TikTok Shop และ Tokopedia ชื่อของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) เหล่านี้เป็นที่รู้จักกันดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในภูมิภาคที่การซื้อขายสินค้าออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 เข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค การสำรวจคาดการณ์ว่าภายในปี 2027 จะมีผู้ใช้งานอีคอมเมิร์ซมากกว่า 402 ล้านคน หรือคิดเป็นกว่า 88% ของประชากรในภูมิภาค
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นิยมซื้อสินค้าออนไลน์ คือความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีการชำระเงินดิจิทัลที่ล้ำหน้าและหลากหลายกว่าภูมิภาคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบชำระเงินแบบเรียลไทม์ เช่น PromptPay ในประเทศไทย และ DuitNow ในมาเลเซีย ไปจนถึงช่องทางใหม่อย่างบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now, Pay Later) อย่าง Atome หรืออีวอลเล็ตอย่าง GrabPay และ Rabbit LINE Pay จนมีการคาดการณ์ว่าปริมาณการชำระเงินดิจิทัลในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมากถึง 417 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 เพิ่มขึ้นกว่า 60% จากปี 2023
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเติบโตของอีคอมเมิร์ซส่งผลดีต่อเศรษฐกิจอย่างมหาศาล แต่ในขณะเดียวกันก็ได้นำมาซึ่งความท้าทายและความเสี่ยงในหลายด้านเช่นกัน
ระหว่างปี 2021 ถึง 2022 อัตราอาชญากรรมทางไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พุ่งสูงขึ้นถึง 82% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่ากังวล ผู้บริโภคในประเทศไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซียต่างรายงานว่ามีมิจฉาชีพติดต่อเข้ามาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
ด้วยจำนวนคดีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภูมิภาคนี้จึงถูกจัดให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่การฉ้อโกงทางไซเบอร์เติบโตเร็วที่สุดในโลกภายในปี 2025 ผู้บริโภคต้องเผชิญกับภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ ทั้งการส่ง SMS หลอกลวง ไปจนถึงการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อสวมรอย
หนึ่งในวิธีฉ้อโกงที่พบเห็นได้บ่อยครั้งในไทยมีลักษณะคล้ายการฉ้อโกงแบบเรียกเงินคืน (Chargeback Fraud) และการฉ้อโกงโดยมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง (Triangulation Fraud) โดยในขั้นแรกมิจฉาชีพจะสร้างร้านค้าออนไลน์หรือการบริการปลอมขึ้นมาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ด้วยการคัดลอกภาพและข้อมูลสินค้าจากร้านค้าที่มีตัวตนจริง และเสนอราคาต่ำกว่าตลาดเพื่อล่อลวงเหยื่อ เมื่อมีผู้บริโภคเข้ามาสั่งซื้อสินค้า มิจฉาชีพจะสร้างคำสั่งซื้อสินค้ากับร้านค้าตัวจริงผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้ได้รับคิวอาร์โค้ดชำระเงินที่ออกโดยระบบของแพลตฟอร์ม
จากนั้นมิจฉาชีพจะส่งต่อคิวอาร์โค้ดดังกล่าวให้เหยื่อ โดยที่เหยื่อไม่รู้ตัวว่ากำลังชำระเงินแทนมิจฉาชีพอยู่ เมื่อการชำระเงินเสร็จสิ้น มิจฉาชีพจะดำเนินการยกเลิกคำสั่งซื้อเพื่อขอรับเงินคืนตามระบบของแพลตฟอร์ม เงินที่ถูกส่งไปที่มิจฉาชีพตามระบบขอคืนเงินจึงเป็นผลมาจากการชำระเงินของเหยื่อ
สำหรับเหยื่อแล้ว พวกเขาทั้งไม่ได้รับสินค้า ติดต่อมิจฉาชีพไม่ได้ และไม่สามารถขอเงินคืนจากร้านค้าจริงได้ ส่งผลให้การขอความช่วยเหลือหรือการเยียวยาในกรณีลักษณะนี้เป็นเรื่องยากในทางปฏิบัติ
ในส่วนของแพลตฟอร์ม เมื่อไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าใครเป็นผู้ชำระเงินจริงจึงยากต่อการตรวจสอบความถูกต้อง แต่เพื่อรักษาความพึงพอใจของลูกค้า ในบางกรณีแพลตฟอร์มจึงต้องชดเชยให้กับผู้เสียหาย การฉ้อโกงลักษณะนี้จึงก่อความเสียหายแก่แพลตฟอร์มเช่นกัน
เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือผู้เสียหายจำนวนมากมักเป็นกลุ่มรายได้น้อยที่ขาดความรู้ด้านดิจิทัล ทำให้พวกเขาตกเป็นเหยื่อได้ง่ายกว่าผู้บริโภคกลุ่มอื่นๆ
เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้าง แต่ยังส่งผลเสียอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของภูมิภาค รายงานของสหประชาชาติระบุว่า ในปี 2023 ประเทศในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูญเสียเม็ดเงินจากอาชญากรรมไซเบอร์ไปมากถึง 37,000 ล้านดอลลาร์ ด้วยจำนวนตัวเลขที่สูงเช่นนี้ มิจฉาชีพออนไลน์จึงเป็นปัญหาที่ไม่ว่าภาคส่วนใดๆ ก็ไม่สามารถมองข้ามได้อีกต่อไป
ในฐานะผู้ให้บริการระบบชำระเงินชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Omise ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านธุรกรรมที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อป้องกันการทุจริตอย่างต่อเนื่อง และผสานความเชี่ยวชาญของบุคลากรเข้ากับเทคโนโลยี AI เพื่อพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงในทุกขั้นตอน ยกตัวอย่างเช่น
กระบวนการตรวจสอบร้านค้า (KYC) โดยผู้เชี่ยวชาญ
ที่ Omise ความไว้วางใจเริ่มต้นจากการทำงานร่วมกับร้านค้าที่เราไว้ใจ เราสนับสนุนเฉพาะธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายและปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่ปลอดภัยสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
หลังจากที่ร้านค้าส่งเอกสารในขั้นตอนการลงทะเบียน ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราจะดำเนินการตรวจสอบตัวตนและประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางการเงินและปฏิบัติตามข้อกำหนดของประเทศที่ดำเนินธุรกิจ
ระบบการคัดกรองการทุจริตหลายชั้น
มั่นใจได้ตั้งแต่เริ่มต้นใช้งานครั้งแรก เพราะทุกธุรกรรมที่ผ่านระบบของ Omise ได้รับการปกป้องด้วยระบบรักษาความปลอดภัยและการตรวจจับการทุจริตหลายชั้น โดยเราใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการวิเคราะห์และตรวจสอบ เช่น
ทีมช่วยเหลือร้านค้าและลูกค้า
นอกจากจะคอยบริการเพื่อให้มั่นใจว่าการรับชำระเงินเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และรวดเร็ว เรายังมีทีมช่วยเหลือผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากการฉ้อโกง และทำงานร่วมกับร้านค้าอย่างใกล้ชิดในระหว่างการสืบสวนคดีฉ้อโกง เพราะเป้าหมายของเราคือการเสริมสร้างมาตรการป้องกันและสร้างสภาพแวดล้อมในการชำระเงินที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับทั้งในระดับสากลและในประเทศ
Omise ยึดความไว้วางใจเป็นหลักในการดำเนินงาน เราปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย PCI DSS 4.0 ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดในระดับสากลสำหรับองค์กรที่ดูแลข้อมูลทางการเงินที่มีความละเอียดอ่อน นอกจากนี้ เรายังปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อกำหนดของแต่ละประเทศอย่างเคร่งครัดในทุกตลาดที่ให้บริการ โดยได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้เราสามารถให้บริการทางการเงินเกือบครบทุกประเภทภายใต้พระราชบัญญัติระบบการชำระเงิน รวมถึงการรับรองในระดับเทียบเท่ากันในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ เรายังเชื่อมต่อและแบ่งปันข้อมูลกับระบบ Central Fraud Registry (CFR) ในประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบที่รวบรวมรายชื่อผู้ที่ถูกแจ้งความหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต เพื่อช่วยเหลือตำรวจและหน่วยงานกำกับดูแลในการป้องกันการฉ้อโกงทางดิจิทัลในประเทศอีกด้วย
อีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ความเสี่ยงจากกลุ่มมิจฉาชีพก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามเช่นกัน ดังนั้นมาตรการป้องกันการฉ้อโกงจึงเป็นการลงทุนที่จำเป็นสำหรับการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
Omise มุ่งมั่นร่วมกับร้านค้าในการสร้างอนาคตของการชำระเงินดิจิทัลที่ปลอดภัย โดยคำนึงถึงสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความสะดวกของผู้ใช้งาน ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วจะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ในระยะยาว
เริ่มต้นก้าวแรกด้วยโซลูชันรับชำระเงินที่ปลอดภัย ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
Resource
Source of Asia. (2025, February 3). E-Commerce market in Southeast Asia 2025 – 2026. https://www.sourceofasia.com/e-commerce-market-in-southeast-asia-2025-2026/
Zhong, O. L. (2025, March 17). Evolving Cyber Threats Target Southeast Asia's Underbanked Populations - Thailand Business News. Thailand Business News. https://www.thailand-business-news.com/crime/186744-evolving-cyber-threats-target-southeast-asias-underbanked-populations#:~:text=Southeast%20Asia%20has%20seen%20an,reliance%20on%20informal%20financial%20services.
Jazeera, A. (2025, April 21). ‘A cancer’: UN warns Asia-based cybercrime syndicates expanding worldwide. Al Jazeera. https://www.aljazeera.com/news/2025/4/21/a-cancer-un-warns-asia-based-cybercrime-syndicates-expanding-worldwide#:~:text=While%20the%20report%20said%20countries,Europe%2C%20and%20the%20Pacific%20Islands