ลูกค้าพร้อมสั่ง ร้านอาหารพร้อมส่ง

สำหรับคนไทย เรื่องอาหารการกินเป็นเรื่องใหญ่ และในยุคดิจิทัลเช่นนี้ ลูกค้าก็หันมานิยมการเลือกสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ กันอย่างแพร่หลาย ทำให้ธุรกิจเล็กใหญ่ต้องรีบปรับตัวให้ทันกระแสดิจิทัล

การขายอาหารออนไลน์เริ่มต้นไม่ยาก แต่การสร้างแบรนด์ให้ตติดตลาดและเติบโตได้ยั่งยืนในระยะยาวไม่ใช่เรื่องง่าย Hato Hub จึงถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยลดภาระและช่วยเหลือธุรกิจอาหารด้วยระบบจัดการร้านอาหารที่จำเป็น

โซลูชันเพื่อธุรกิจอาหาร พร้อมเติบโตในตลาดดิจิทัล

Hato hub เป็นแพลตฟอร์มจัดการร้านอาหารแบบครบวงจรสำหรับร้านอาหารและร้านขายของชำ ให้บริการตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง ไปจนถึงเครือแฟรนไชส์ ซึ่งลูกค้าสามารถเปิดร้านบนแพลตฟอร์มได้โดยไม่ต้องมีความรู้เรื่องการเขียนเว็บไซต์และสามารถควบคุมการทำธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านโซลูชัน 3 ส่วน

1) ระบบจัดการร้านอาหาร และ ระบบสั่งอาหารออนไลน์ (Hato Store)

เว็บไซต์ของร้านที่ออกแบบได้เองในทุกขั้นตอน เชื่อมต่อกับระบบรับชำระเงินออนไลน์ บริการส่งอาหาร และระบบการจัดการออเดอร์หลังบ้านที่ครบครัน ช่วยให้ทำธุรกิจได้โดยไม่ต้องมีหน้าร้านจริงๆ และยังเชื่อมต่อเข้ากับช่องทางโซเชียลมีเดียของแบรนด์ได้อีกด้วย

2) ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (Hato Heart)

รวมฟีเจอร์ในการดูแลลูกค้า เช่น ระบบสมาชิก ระบบสะสมคะแนน คูปอง และสิทธิพิเศษต่างๆ ทำให้ร้านค้าแสดงความใส่ใจต่อลูกค้าได้อย่างทั่วถึงผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์

3) เครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูล (Hato Agency)

จัดเก็บและวิเคราะห์ฐานข้อมูลของลูกค้าเพื่อพัฒนากระบวนการทำงานและออกแบบแคมเปญการตลาดที่เหมาะสม ให้แบรนด์ส่งข้อมูลและจัดสรรงบสำหรับการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ฉีกกรอบธุรกิจเดลิเวอรี่แบบเดิมๆ

การขายอาหารบนแอปฯ ต่างๆ นั้น ช่วยเพิ่มยอดขายได้ดีและช่วยให้ร้านค้าเริ่มขายออนไลน์ได้ง่ายขึ้น แต่ด้วยจำนวนคู่แข่งกับข้อจำกัดด้านการตลาดและการเข้าถึงข้อมูลบนแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ ธุรกิจจึงสูญเสียโอกาสในการพัฒนาแบรนด์ให้ยั่งยืนในระยะยาว ทาง Hato Hub จึงได้พัฒนาพื้นที่ที่เจ้าของร้านมีอำนาจในการตัดสินใจและควบคุมธุรกิจของตัวเองได้อย่างเต็มที่

ร้านอาหารและร้านค้าบน Hato Hub จะได้ซับโดเมน (subdomain) หรือหน้าเว็บไซต์ของตัวเองไปเลย จึงช่วยลดความกังวลให้กับร้านค้าในหลายๆ เรื่อง เช่น ค่าบริการระบบแอปพลิเคชัน (gross profit) หรือ ข้อจำกัดในการจัดโปรโมชั่น และยังมีระบบหลังบ้านที่แสดงข้อมูลของทุกออเดอร์โดยละเอียดตั้งแต่ตอนกดสั่งจนถึงตอนส่งถึงมือลูกค้า ซึ่งช่วยให้ร้านค้ารู้สาเหตุในกรณีที่เกิดปัญหากับออเดอร์ ทำให้เข้าแก้ไขได้เร็วและตรงจุด

รับเงินอย่างเบาใจ

การเลือกระบบรับชำระเงินก็สำคัญ โดยระบบหลังบ้านของ Hato Hub เชื่อมต่อเข้ากับ API ของโอมิเซะ เมื่อลูกค้าเปิดร้านบนแพลตฟอร์ม ลูกค้าจะได้สมัครบัญชีใหม่กับโอมิเซะเพื่อรับชำระเงินผ่านเว็บไซต์ ดังนั้น ร้านค้าแต่ละร้านจะสามารถเลือกเองได้ว่าต้องการรับชำระเงินผ่านช่องทางใดบ้าง จากตัวเลือกที่ลูกค้าคนไทยนิยมใช้ อย่าง ทรูมันนี่วอลเล็ท บัตรเครดิต และ พร้อมเพย์ รวมถึงได้รับเงินเข้าบัญชีของร้านโดยตรงและตรวจสอบสถานะการจ่ายเงินได้ทันที ไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างแอปพลิเคชัน

การเชื่อมต่อเพย์เมนต์เกตเวย์เข้ากับเว็บไซต์ของร้านโดยตรงยังช่วยให้ร้านค้าสามารถออกแบบหน้าตาของหน้าจอเช็คเอาต์ให้สวยงาม เข้ากับแบรนด์ได้ และยังมั่นใจในความปลอดภัยของการชำระเงินได้มากขึ้น

ร่วมพัฒนาศักยภาพกับธุรกิจพาร์ทเนอร์

Hato Hub เป็นพาร์ทเนอร์กับโอมิเซะมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น ซึ่งทางแพลตฟอร์มมีความเข้าใจในตลาดออนไลน์และชำนาญในการพัฒนาระบบเพื่อธุรกิจอาหารโดยเฉพาะ ส่วนโอมิเซะได้เข้ามาเสริมโครงสร้างในฝั่งของการรับชำระเงิน

คุณดาริน สุทธพงษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Hato Hub ได้แบ่งปันกับเราว่า ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มนั้น การร่วมงานกับผู้พัฒนาโซลูชันเฉพาะทาง เช่น โอมิเซะ ช่วยลดต้นทุนในการพัฒนาระบบอย่างมาก เพราะการเชื่อมต่อกับระบบรับชำระเงินที่มีอยู่แล้วแทนการพัฒนาเองแต่ต้น ช่วยให้เอางบประมาณกับแรงคนไปลงกับสิ่งที่ตัวเองถนัดเพื่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าได้ และยังประหยัดเวลาเพราะเริ่มใช้งานได้เลย

ความเสถียรของระบบก็เป็นอีกปัจจัยหลัก เพราะการเกิดปัญหาในระบบแต่ละครั้งเท่ากับความเสี่ยงในการสูญเสียความเชื่อใจของลูกค้า ซึ่งถือเป็นการสูญเสียที่มีมูลค่าสูง “ตั้งแต่เราใช้บริการโอมิเซะมาทางเรายังไม่เคยมีปัญหาระบบล่มหรือขัดข้องที่รุนแรง และร้านค้าก็มีการตอบรับที่ดีมาเสมอ” คุณดารินเสริม